Arctic วิกฤตหลังน้ำมันดีเซลรั่วลงแม่น้ำ
รัฐบาลรัสเซียได้ประกาศภาวะฉุกเฉินที่บริเวณ Arctic หลังจากที่เกิดการรั่วไหลของถังน้ำมันขนาดใหญ่จนทำให้น้ำมันดีเซลกว่า 20,000 ตันไหลลงแม่น้ำ และทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีแดง
ถังน้ำมันสำรองที่เป็นของสถานีทำความร้อนนั้นได้ระเบิดในวันศุกร์ใกล้กับ Norilsk เมืองอันห่างไกลทางตอนเหนือของรัสเซีย ซึ่งอยู่เหนืออาร์กติกเซอร์เคิลไป 180 ไมล์ส ตามรายงานสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลรัสเซียนั้นได้บอกว่า ถังน้ำมันที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมนั้นเป็นของบริษัทขุดเจาะสัญชาติรัสเซียอย่าง Norilsk Nikel ซึ่งบรรจุน้ำมันดีเซลเอาไว้ราว 20,000 ตัน และเกือบทั้งหมดก็ได้ไหลลงสู่แม่น้ำและทะเลสาบบริเวณใกล้เคียงในเขต Taimyrskii Dolgano-Nenetskii
ทั้งคลิปวิดีโอและรูปภาพที่ถ่ายจากทางอากาศแสดงให้เห็นถึงทางที่น้ำไหลผ่านในแม่น้ำสองสายคือ Ambarnaya และ Daldykan ได้กลายเป็นสีแดงสด และมลพิษครั้งนี้ก็ยังสามารถเห็นได้ชัดจากภาพถ่ายทางดาวเทียมของรัสเซียผ่านทาง Yandex Maps นักรณรงค์ทางสิ่งแวดล้อมก็ได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบระยะยาวของเหตุการณ์นี้อีกด้วย
ประธานาธิบดี Vladimir Putin ก็ได้ประกาศให้สถานการณ์การรั่วของน้ำมันนี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลวในการรับมือที่เร็วกว่านี้ของการปกครองส่วนภูมิภาค Krasnoyarsk ซึ่งรวมไปถึง Norlisk ด้วยที่ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันอาทิตย์ หลังจากที่มีการรั่วไปแล้วสองวัน รัฐบาลยังโทษไปถึงเรื่องความผิดพลาดในการแจ้งระดับความเสียหายของเหตุการณ์นี้อีกด้วย
Alexander Uss นายกเทศมนตรีของ Krasnoyarsk ซึ่งเป็นภูมิภาคไซบีเรียนขนาดใหญ่ได้บอกกับปูตินผ่านทาง video call ทางไกลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าเขาเพิ่งพบว่าเหตุการณ์นี้มันร้ายแรงขนาดไหนก็ตอนที่ประชาชนในท้องถิ่นได้โพสต์คลิปวิดีโอลงบน social media
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตามแม่น้ำที่อยู่ใกล้กับอุตสาหกรรมของ Norilsk Nikel นั้นก็ปนเปื้อนมลพิษมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว ในปี 2016 ทางบริษัทได้รับรู้ว่าน้ำที่ท่วมหนึ่งในโรงงานเหล็กเป็นสาเหตุทำให้สารเคมีรั่วไหล ซึ่งก็ทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีแดงเช่นกัน และในตอนแรกพวกเขาก็ปฏิเสธในเรื่องนี้ด้วย
ฝากขั้นต่ำ100 เล่นได้ทั้งคาสิโนและกีฬา